ดาวรุ่งไทยกับโอกาสในลีกสิงคโปร์

"A Rising Prospect" ดาวรุ่งไทยกับโอกาสในลีกสิงคโปร์
ในวงการฟุตบอลไทย "เบส ธเนศ สุขเนตร" อาจจะยังไม่ใช่ชื่อที่คุ้นหูสำหรับแฟนบอลหลายคน แต่ด้วยความมุ่งมั่นและพรสวรรค์ที่แสดงออกมาตลอดเส้นทางอาชีพ เบสกำลังก้าวขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งดาวรุ่งที่น่าจับตามอง
การเดินทางสู่ลีกต่างประเทศในวัยเพียง 19 ปี ไม่เพียงสะท้อนถึงศักยภาพที่เขามี แต่ยังเป็นเครื่องยืนยันถึงความตั้งใจที่จะเติบโตในเส้นทางฟุตบอล วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับเรื่องราวของเขา ตั้งแต่ก้าวแรกในวงการฟุตบอลจนถึงโอกาสใน "สิงคโปร์ พรีเมียร์ลีก" กับทีมแทมปิเนส โรเวอร์ส
ชื่อ : ธเนศ สุขเนตร (เบส)
วันเกิด : 26 กรกฎาคม 2548 ปัจจุบัน อายุ 19 ปี
ภูมิลำเนา : พระนครศรีอยุธยา
ตำแหน่ง : กองหลังตัวกลาง
สโมสร : แทมปิเนส โรเวอร์ส (ยืมตัวจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
เส้นทางสายฟุตบอล
การเดินทางของเบส เริ่มต้นแบบจริงจัง เมื่อเข้าเรียนที่ โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งสถานศึกษาแห่งนี้ มีชื่อเสียงอย่างมากในแง่ของการสร้างนักเตะเยาวชนป้อนเข้าสู่วงการฟุตบอลไทย

ในช่วงอายุประมาณ 12 ปี เบสเคยมีโอกาสไปเข้าแคมป์ฝึกซ้อมที่สโมสรโยโกฮามา มารินอส ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่อุ้ม ธีราธร แบ็คซ้ายกัปตันทีมชาติไทยได้ไปค้าแข้งกับมารินอสด้วย นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของเขาในวงการฟุตบอล

ปกติสมัยเรียนเบสเริ่มต้นที่ ตำแหน่งกองกลางตัวรับ และเมื่อรูปร่างสูงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ก็ค่อยๆ ถอยลงมาเล่นในแผงหลัง โดยเฉพาะบทบาทเซ็นเตอร์แบ็ค เบสฉายแวว ด้วยฝีเท้าและมีความเป็นผู้นำในสนามสูงจนได้เป็นกัปตันทีมของโรงเรียน นอกจากนี้ ยังสามารถเล่นในตำแหน่งแบ็คขวาได้ ซึ่งช่วยเพิ่มมิติในการเล่นของเขา
"เบส" หรือ "ธเนศ สุขเนตร" แนวรับวัย 19 ปี เซ็นสัญญานักฟุตบอลอาชีพฉบับแรกในชีวิตกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ตั้งแต่เรียนชั้น ม.5 ก่อนจะถูกปล่อยยืมตัวไปเสริมกระดูก หาประสบการณ์และโอกาสในการลงเล่นกับ สุพรรณบุรี เอฟซี ในศึกไทยลีก 2
'เบส' เรียนรู้จาก "the Best"
หลังจากหมดสัญญายืมตัว ต้องกลับมาบีจี ปทุมฯ เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับการกลับมาคุมทัพกระต่ายแก้วในรอบที่สอง ของโค้ชเทกุ มาโกโตะ เทกุราโมริ ทำให้ได้มีโอกาสได้ฝึกซ้อมร่วมกับทีมชุดใหญ่ของบีจีและลงแข่งกระชับมิตรในนามทีมชุดใหญ่ช่วงพรีซีซั่นที่ผ่านมา
เบสเล่าให้ฟังว่า การได้เล่นเคียงข้างนักเตะรุ่นพี่ทีมชาติหลายๆคน ที่เราเคยดูเขาอยู่ในทีวีตั้งแต่เด็กๆ ทั้งในทีมเดียวกันหรือแม้แต่ฝั่งตรงข้าม เป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่ามากๆ
ครั้งหนึ่งตอนลงสนามในเกมพรีซีซั่นกับบีจี หลังแข่งเสร็จ พี่มุ้ย ธีรศิลป์ เดินมาหาแล้วถามว่า
"จุดอ่อนจุดแข็งของเราคืออะไร หามันให้เจอ"
พี่มุ้ยบอกว่า ให้กล้าเล่น ใจสู้เข้าไว้
"อย่าไปกลัว เราคนเหมือนกันจะไปกลัวอะไร"
ก็เป็นประโยคที่ก้องอยู่ในหัว ยังจำได้จนทุกวันนี้
ไอดอลของเบสอีกคน อย่าง เชน สุพรรณ ทองสงค์ ที่เจ้าตัวยกให้เป็นต้นแบบ เนื่องจากเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์เหมือนกัน เบสก็ไม่เคยคิดว่า วันหนึ่งจะได้มีโอกาส มาอยู่ในสนามเดียวกันร่วมกับพี่เขา แม้จะในฐานะคู่ต่อสู้ก็ตาม

เบสเห็นพี่เชนเล่นมาตั้งแต่สมัยอยู่กับสุพรรณเอฟซี ที่ขณะนั้นเบสยังอยู่โรงเรียนกีฬาสุพรรณ ก็มาช่วยเป็นเด็กเก็บบอลไป ดูพี่เขาเล่นไป ก็เป็นอีกหนึ่งความทรงจำดีๆ ที่ได้เติมเต็มความฝัน
สไตล์การเล่นของเบสเป็นเซ็นเตอร์สไตล์ทางบอล อ่านจังหวะ เช่นเดียวกับต้นแบบอีกคนที่เบสชื่นชอบคือ พรรษา เหมวิบูลย์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ทีมชาติไทย หรือถ้าระดับโลกก็มี เซอร์คิโอ รามอส และ เฟอจิล ฟานไดจ์ เป็นไอดอล
เดินหน้าสู่ สิงค์โปร์ พรีเมียร์ลีก
ช่วงก่อนเปิดฤดูกาลไทยลีกจะเริ่มขึ้น บีจี ปทุมฯ ตัดสินใจส่ง เบส ไปร่วมทีมพันธมิตรอย่าง "บีจี แทมปิเนส โรเวอร์ส เอฟซี" ดีกรีอันดับ 3 ศึก "สิงคโปร์ พรีเมียร์ลีก" และ อันดับ 3 ฟุตบอล "สิงคโปร์ คัพ" ในซีซั่นล่าสุดด้วยสัญญายืมตัว โดยเดินทางไปพร้อมกับ บาส "ฐิติภัส เอกอรัญพงศ์" กองหน้าดาวรุ่งวัย 19 ปี อีกคนของทีม

เบสเล่าว่า เมื่อสโมสรมาแจ้งข่าวนี้
"ตัดสินใจไม่ยากเลยครับ เพราะมองว่าเป็นโอกาสในการเติบโต และไม่ใช่ว่าโอกาสแบบนี้จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ ในการได้ย้ายไปค้าแข้งยังต่างประเทศ"
จึงได้ตอบตกลงไปในทันที
สำหรับชีวิตในสิงคโปร์นั้น ก็เป็นการไปใช้ชีวิตแบบนักฟุตบอลอาชีพเต็มตัว โดยเบสโชคดี ได้เพื่อนร่วมทีมรุ่นพี่ที่เป็นนักเตะชาวญี่ปุ่นอย่างเซย่า คุโนริ กองหน้าตัวเก่งของทีม ช่วยดูแลในการปรับตัวในช่วงแรกๆ
ความแตกต่างของลีกไทยและสิงคโปร์
เมื่อถามถึงความแตกต่างระหว่างการเล่นและฝึกซ้อมที่ไทยกับสิงค์โปร์ เบสคิดว่าการซ้อมที่นั่น ไม่หนักเท่าที่ไทย เช่นเรื่องวิ่ง ที่ไทยซ้อมหนักกว่า เน้นพละกำลังมากกว่า ซึ่งก็อาจจะเป็นเพราะจำนวนเกมที่ต้องลงแข่งขัน
ที่สิงค์โปร์ อาจจะไม่มีมีจำนวนเกมมากเท่าที่ไทย และสโมสรก็เชื่อมั่นว่านักเตะทุกคนที่นี่มีความเป็นมืออาชีพ มีวินัยและการดูแลรักษาสภาพร่างกายได้ดีอยู่แล้ว ทางนั้นจึงจะเน้นไปที่การซ้อมในเรื่องแทคติกและความเข้าใจเกมมากกว่า
ส่วนการแข่งขันจริงที่แตกต่างชัดเจนเลยคือสปีดบอล ซึ่งที่สิงคโปร์เล่นกันเร็วกว่าที่ไทยพอสมควร ทำให้เบส ต้องอาศัยเวลาในการปรับตัวอยู่เหมือนกัน
เส้นทางในอนาคต
สำหรับเป้าหมายที่วางเอาไว้สำหรับการมาเล่นที่นี่นั้น เบสตั้งใจว่า จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มากที่สุด ไม่ว่าหลังจากนี้ จะได้อยู่ที่นี่ต่อ หรืออาจจะต้องกลับเมืองไทยก็ตาม ก็อยากจะให้โอกาสที่ได้มาในครั้งนี้ เกิดประโยชน์กับตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
แม้ว่าชื่อของเบส ธเนศ สุขเนตร อาจยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แม้ว่าเขาเองก็ยังไม่เคยติดทีมชาติ แต่ด้วยความสามารถและความตั้งใจ..
เราเชื่อว่าเขาคืออีกหนึ่งดาวรุ่งที่น่าจับตามองในวงการฟุตบอลไทย ประสบการณ์จากลีกต่างแดนครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยพัฒนาศักยภาพของเขาในอนาคต
และอาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ทีมชาติไทยในอนาคตก็เป็นได้ มาร่วมให้กำลังใจน้องไปด้วยกันครับ
ติดตามความเคลื่อนไหวของเบสได้ที่
Facebook: Thanet Suknate