เอเย่นต์ฟุตบอลผู้สร้างเส้นทางจากศูนย์สู่ระดับนานาชาติ (ตอนที่ 2)

ความท้าทาย / บทบาทและรายได้ของเอเย่นต์ / การตีตลาดไปยังต่างประเทศ
ความท้าทายและบทเรียนในบทบาทเอเย่นต์
เอเย่นต์ ไม่ใช่แค่พอส่งนักเตะเข้าสโมสรได้แล้วก็จบหน้าที่แค่นั้น แต่อาชีพนี้ มันเหมือนเราคือผู้จัดการส่วนตัวของนักเตะด้วย ที่ยังต้องดูแลกันไปจนจบสัญญา เพราะนักเตะจะมีสัญญากับทั้งสโมสรและสัญญากับเราอีกฉบับ

ถ้าหมดแล้ว ต่างฝ่ายยังแฮปปี้ก็ต่อกันไปอีก หน้าที่ของเราคือดูแลทุกอย่างของนักเตะ ตั้งแต่เขามาไทยก็ไปรับกันตั้งแต่สนามบิน หาที่พักให้ หาทีมให้ไปทดสอบ ส่วนใหญ่จะให้สโมสรดูฟอร์มก่อนเลย ผมจะยังไม่คุยเรื่องเงิน
ถ้าเขาชอบเขาจะถามเราเอง เราก็ต้องพยายามต่อรองเพื่อให้นักเตะของเราได้เงินเยอะที่สุด โดยอิงจากข้อมูลที่เรามีว่าสโมสรนี้เพดานค่าเหนื่อยอยู่ประมาณเท่าไร หลังจากเซ็นกันแล้ว ก็ยังดูแลกันต่อไป เช่น ตอนเขาอยู่นอกสโมสร ที่กิน ที่อยู่ การเดินทาง ดูแลเรื่องเอกสาร Visa และยังเป็นตัวกลางในการสื่อสารระหว่างสโมสรกับนักเตะ
ในบางเรื่องที่ทีมก็ไม่ได้คุยกับนักเตะตรงๆ เช่นโค้ชอาจจะฝากมาว่า
ทำไมช่วงนี้นักเตะคุณ ดูไม่ฟิต มีปัญหาอะไรหรือเปล่า นอนดึกไหม
อะไรแบบนี้เป็นต้น..
สร้างเครือข่ายและพัฒนาศักยภาพวงการฟุตบอลในอาเซียน
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น KJ Talent Management มีสิ่งที่เรียกว่าอาจจะเป็นทั้งโอกาสและจุดเปลี่ยนทางธุรกิจเพิ่มเติมเข้ามา คือมีช่องทางเติบโตออกไปในต่างประเทศ โดยได้กระโดดเข้าไปเปิดตลาดที่กัมพูชาเป็นที่แรก โดยเริ่มเข้าไปทำความรู้จัก ค่อยๆ แนะนำตัวพอทางนั้นเริ่มเปิดใจ การพูดคุยก็เริ่มมีความคืบหน้า

ปีแรกที่ไปยังไม่เข้าเป้ามากนัก นักเตะที่ผมส่งไปยังทำผลงานไม่ได้ตามเป้า ผมทำการบ้านอยู่สักระยะ จนเริ่มจับจุดได้ พอมาชุดหลังๆ นักเตะที่ส่งไปเริ่มมีผลงานเป็นที่น่าประทับใจและยึดตำแหน่งตัวจริงได้ บางคนกลายเป็นตัวหลักของสโมสรและนักเตะแนวหน้าของลีกอีกด้วย
นอกเหนือจากนักเตะ ทางทีมยังมีการส่งบุคลากรฟุตบอลด้านอื่นๆ ไปที่กัมพูชาด้วย เช่นปีนี้เราก็ส่งโค้ชผู้รักษาประตูชาวไทย ไปเป็นโค้ชของสโมสรที่นั่น เป็นต้น
KJ Talent Management ยังขยายธุรกิจไปยังประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียเพิ่มเติมเช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ และเวียดนาม อีกด้วย ซึ่งเมื่อพูดถึงโอกาสของนักเตะหรือบุคลากรฟุตบอลไทยในต่างแดน ผมมองว่าภาษาเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
อุปสรรคอย่างหนึ่งของนักเตะไทยคือเรื่องภาษา แต่กลับกันเมื่อมองไปที่ประเทศอื่นในอาเซียน ยกตัวอย่างเช่น ฟิลิปปินส์ ที่นักเตะพูดภาษาอังกฤษได้ ทำให้โอกาสต่างๆเปิดกว้างมากกว่านักเตะไทย ที่แค่จะไปเล่นในลีกเพื่อนบ้าน สมมุติอย่างกัมพูชา แต่เราพูดอังกฤษไม่ได้ก็ลำบากแล้ว เขาก็อาจจะไม่เลือกเรา ไปเลือกฟิลิปปินส์แทนเป็นต้น
ยกตัวอย่างเคสหนึ่งในลีกเพื่อนบ้าน ผู้รักษาประตูเป็นเวียดนาม คู่เซ็นเตอร์ใช้กัมพูชากับโคลัมเบีย
"ไม่ต้องเล่าต่อก็พอจะรู้ปลายทาง คือสื่อสารกันไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย ที่บ้านเราจะต้องช่วยกันส่งเสริมทักษะด้านภาษาให้กับนักเตะโดยเริ่มตั้งแต่ระดับเยาวชน"
เอเย่นต์มีรายได้จากไหน ช่องทางใดบ้าง
เอเย่นต์มีรายได้จากทางไหนบ้าง หลักๆ จะมาจาก 3 ทาง
1. ค่าคอมมิสชัน จากนักเตะที่อยู่ในสังกัดของเรา โดยจะได้เป็นเปอร์เซ็นต์ จากเงินเดือนของนักเตะ โดยสโมสรจะจ่ายตรงให้กับนักเตะ และนักเตะค่อยเอามาให้เราต่อ
2. ค่าเซ็นต์สัญญา เมื่อเกิดการย้ายทีม สโมสรมักจะมีเงินก้อน จำนวนหนึ่งให้นักเตะในครั้งแรก เรียกค่าเซ็นต์สัญญา เราก็จะได้เปอร์เซ็นต์จากส่วนนี้ด้วย กับอีกกรณีคือเป็นเงินที่สโมสรมอบให้เอเย่นต์โดยตรงเลย (Agency Fee) จากการที่ผมหานักเตะมาให้เขา ในแบบที่เขาอยากได้
3. ส่วนแบ่งจากการซื้อขาย พูดง่ายๆ คล้ายๆ นายหน้าขายที่ดิน เมื่อเราเป็นตัวกลางระหว่างสโมสร A กับ B แล้วเกิดการซื้อขายกันขึ้น เราจะได้คอมมิสชันจากตรงนี้ ตามตัวเลขที่ฟีฟ่ากําหนด แต่ว่าในความเป็นจริงอาจจะต้องมีค่าการจัดการอื่นๆ เพิ่มเติมเป็น Management Fee เพิ่มขึ้นมา
อนาคตของอาชีพนี้ในประเทศไทย
ผมคิดว่าอาชีพนี้ยังไปต่อได้ หลายๆ สโมสรเองเขาก็อยากไปโฟกัส ที่ผลงานของทีม หรือการพัฒนานักเตะมากกว่า เรื่องอื่นๆ เขาคิดว่าให้เอเย่นต์ทำไปแหละดีแล้ว
"ผมมองว่าการเติบโตของธุรกิจนี้ในไทย อาจจะไม่ได้เติบโตรวดเร็วแบบก้าวกระโดด แต่จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับปัจจัยของความนิยม กระแสบอลไทย ที่จะส่งผลต่อมูลค่าตลาดฟุตบอลในบ้านเราด้วย"
บทสรุป: “กาวใจ ผู้สร้างเส้นทางใหม่ในวงการฟุตบอล”

คุณกาวใจเป็นตัวอย่างของคนที่เปลี่ยนความหลงใหลในฟุตบอลให้กลายเป็นอาชีพที่สร้างความแตกต่างได้อย่างชัดเจน การเดินทางของเขาจากการเป็นมือใหม่ในวงการเอเย่นต์ สู่การสร้างเครือข่ายในระดับนานาชาติ เป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นและความทุ่มเทอย่างไม่สิ้นสุด
การขยายเครือข่ายไปสู่ตลาดใหม่ๆ ไม่ได้เป็นแค่เพียงเป็นเอเย่นต์นักฟุตบอล แต่ยังเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ในวงการกีฬาอีกด้วย
ในอนาคตที่ไม่ไกล ด้วยความสามารถของคุณกาวใจและ KJ Talent Management ทาง Off The Bench ของเราเชื่อว่าคนไทยอาจจะได้เห็นโปรเจ็คฟุตบอลอะไรดีๆ ในเมืองไทยนี้เพิ่มเติมอีกก็ได้ มาคอยติดตามและให้กำลังใจกันครับ
------------------------------
ติดตามก้าวต่อไปและความเคลื่อนไหวของ KJ Talent Management ได้ที่